บทที่3
ระเบียบวิธีวิจัย
การศึกษานี้เป็นการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกใช้โทรศัพท์
เคลื่อนที่ที่สามารถส่งข้อความตอบโต้กันได้อย่างทันทีซึ่งประกอบด้วย กรอบแนวคิด ประชาชนและกลุ่มตัวอย่าง ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยสถิติที่ใช้ในการวิจัย ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
เคลื่อนที่ที่สามารถส่งข้อความตอบโต้กันได้อย่างทันทีซึ่งประกอบด้วย กรอบแนวคิด ประชาชนและกลุ่มตัวอย่าง ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยสถิติที่ใช้ในการวิจัย ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
3.1 กรอบแนวคิด
ในการศึกษาพฤติกรรมการตัดสินใจใช้และไม่ใช้โทรศัพท์มือถือที่สามารถส่งข้อความโต้ตอบกันได้อย่างทันทีนั้นกรอบแนวคิดในการศึกษาดังกล่าวเริ่มจากการพิจารณาผ่านลักษณะปัจจัยพื้นฐานของผู้บริโภค
ผนวกกับลักษณะทางด้านสินค้าหรือผู้ผลิต จนนำไปสู่การตัดสินใจเลือกหรือไม่เลือกใช้สินค้า
การศึกษาครั้งนี้ดำเนินการโดยใช้กลุ่มตัวอย่างจากประชากรในโรงเรียนพะเยาพิทยาคมที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่
ประชากรดังกล่าวประกอบด้วยนักเรียนโรงเรียนพะเยาพิทยาคมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5จำนวนทั้งสิ้น
การคำนวณหากลุ่มตัวอย่างคำนวณโดยใช้วิธีของทาโร
ยามาเน (Taro Yammane)มีสูตรการคำนวณดังต่อไปนี้
โดยที่ n คือ ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง
N คือ ขนาดของประชากร
e คือ
ค่าความคลาดเคลื่อนของการเลือกตัวอย่าง
การศึกษาครั้งนี้ได้กำหนดระดับความเชื่อมั่นไว้ที่ 90%
หรือค่าความคลาดเคลื่อน (e)
เท่ากับ 0.1ดังนั้นเมื่อแทนสูตรข้างต้นจะได้
ดังนั้นเพื่อให้การคำควณมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ในการศึกษาครั้งนี้จึงใช้ขนาดตัวอย่างเท่ากับ 60 คน
โดยเลือกตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญและการสุ่มตัวอย่างแบบลูกโซ่
3.3ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษา
ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาพฤติกรรมของผู้ที่ใช้และไม่ใช้โทรศัพท์มือถือที่สามารถส่งข้อความโต้ตอบกันได้อย่างทันทีผู้ศึกษาได้ใช้วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล
2 ประเภทดังนี้
1) ข้อมูลปฐมภูมิ
ได้จากการสำรวจโดยใช้แบบสอบถามไปยังกลุ่มตัวอย่างจำนวน 60 คน ข้อมูลปฐมภูมิดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
ข้อมูลพื้นฐานของผู้บริโภค
พฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือคุณสมบัติของโทรศัพท์มือถือ และข้อเสนอแนะ
2) ข้อมูลทุติยภูมิ
เป็นข้อมูลที่ได้จากการค้นคว้าเอกสาร งานวิจัย บทความ และการสืบค้นทางอินเตอร์เน็ต
3.4 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อใช้ศึกษาวิจัยครั้งนี้ได้แก่
แบบสอบถาม (Questionnaire)
ซึ่งมีลักษณะเป็นคำถามปลายปิด (Close-ended questions)
และคำถามปลายเปิด (Open-end questions)โดยแบ่งแบบสอบถามเป็น
3 ส่วนดังนี้คือ
ส่วนที่ 1
ข้อมูลเกี่ยวข้องกับข้อมูลพื้นฐานของผู้บริโภค ได้แก่ เพศ อายุ ลักษณะนิสัยส่วนตัว
ลักษณะการใช้ชีวิตประจำวันจำนวนเวลาว่างเฉลี่ยในแต่ละวัน
ส่วนที่ 2
เป็นข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ถือถือของผู้บริโภคแต่ละคน
รวมถึงลักษณะการใช้งาน วัตถุประสงค์การใช้งาน ได้แก่
จำนวนโทรศัพท์มือถือที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ยี่ห้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ สีโทรศัพท์ที่ชอบ
ราคาโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เหมาะสม ความถี่ในการเปลี่ยนโทรศัพท์
รูปแบบของโทรศัพท์ที่ใช้ วิธีการสื่อสารที่ต้องการใช้
อิทธิพลของกระแสนิยมและวัตถุประสงค์การใช้งาน
ส่วนที่ 3
เป็นข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีอิทธิพลในการตักสินใจเลือกใช้โทรศัพท์มือถือ ได้แก่
ปัจจัยทางกายภาพและคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ ปัจจัยราคาของผลิตภัณฑ์
ปัจจัยช่องทางการจัดจำหน่าย ปัจจัยส่งเสริมการตลาด ปัจจัยด้านบุคลากร
และปัจจัยด้านภาพลักษณ์
1.สถิติเชิงพรรณนาความถี่ร้อยละ
สถิติเชิงพรรณนาใช้ในการวิเคราะห์ลักษณะทั่วไปของผู้บริโภคในโรงเรียนพะเยาพิทยาคมที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่
โดยมีจุดประสงค์ในการอธิบายถึงลักษณะสำคัญของข้อมูล
คือการคำนวณแจกแจงความถี่การคำนวณหาค่าร้อยละ (Percentage) ของข้อมูลที่ได้จากแบบสอบถามจำนวน 60 ชุด
2.การให้คะแนนระดับความสำคัญ
การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่
โดยนำเสนอในรูปของค่าเฉลี่ยและได้จัดความสำคัญ
โดยทำการวัดความคิดเห็นแบบลิเคิร์ทสเกล (Likert Scale) ซึ่งระดับความสำคัญและคะแนนแบ่งเป็น 5 ระดับดังนี้
ระดับความสำคัญของปัจจัย คะแนน
มากที่สุด 5
มาก 4
ปานกลาง 3
น้อย
2
น้อยมาก
1
การแปลความหมายของค่าเฉลี่ยของความสำคัญโดยใช้หลักการวัดดังนี้
ระดับความสำคัญของปัจจัย
ค่าเฉลี่ย
มากที่สุด
4.50-5.00
มาก 3.50-4.49
ปานกลาง 2.50-3.49
น้อย 1.50-2.49
น้อยมาก
1.00-1.49
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น